Greater Pharma Brewers Yeast บริเวอร์ยีสต์ 500mg. 200tab
บริเวอร์ยีสต์ แหล่งวิตามินบีจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงรากผม
สกัดจากบริวเวอร์ยีสต์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของวิตามินบีนานาชนิด รวมทั้งให้กรดอะมิโนและแร่ธาตุต่างๆ ใน 1 เม็ด ช่วยบำรุงรากผม ช่วยให้สดชื่นจากวิตามินบี
บริวเวอร์ยีสต์ มีวิตามินแร่ธาตุนานาๆชนิด ช่วยให้แผลหายเร็ว เช่น
แผลจากสิว หรืออื่นๆ ลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม
ทำให้ผมสลวยเงางามมีสุขภาพดีขึ้น บำรุง ผม ผิว เล็บ ให้แข็งแรง
ทำให้นอนหลับสบาย ทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น ลดอาการชาตามปลายมือ
ปลายเท้า ปลายประสาท ช่วยควบคุมอินซูลิน น้ำตาลในเลือด
บริเวอร์ยีสต์คืออะไร
-บริเวอร์ยีส์กับประโยชน์ต่อร่างกาย
-บริเวอร์ยีสต์กับโรคเบาหวาน
-บริเวอร์ยีสต์กับระดับคลอเลสเตอรอลสูง
-บริเวอร์ยีสต์กับระบบทางเดินอาหาร
-รูปแบบและขนาดที่ใช้รับประทาน
-ข้อควรระวัง
-ปฏิกริยาของบริเวอร์ยีสต์ต่อยาอื่น
บริเวอร์ยีสต์คืออะไร
บริเวอร์ยีสต์
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Saccharomyces Cerevisias
เป็นเชื้อยีสต์ที่มีชีวิตโดยจะถูกความร้อนทำให้ตายหมด
ไม่มีฤทธิ์ในการเป็นเชื้อหมักฟู เหลือไว้แต่เพียงคุณค่าทางโภชนาการ โดย
บริเวอร์ยีสต์ เป็น By-Product ที่ได้รับจากการผลิตเบียร์
มีรสชาติค่อนข้างรุนแรง ถึงแม้ว่า บริเวอร์ยีสต์
โดยปกติจะได้จากขบวนการผลิตเบียร์
แต่ปัจจุบันได้มีการปลูกแยกเป็นผลิตภัณฑ์ต่างหากและถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างมาก
บริเวอร์ยีสต์
ประกอบไปด้วยธาตุอาหารสมบูรณ์มากมาย มี กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายถึง
16 ชนิดจากทั้งหมด 20 ชนิด เกลือแร่ 14 ชนิด และ วิตามิน อีก 17 ชนิด โดย
บริเวอร์ยีสต์ เป็นแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุดของVitamin B-Complex
ซึ่งประกอบไปด้วย B1 (thiamine), B2 (riboflavin), B3 (niacin), B5
(pantothenic acid), B6 (pyridoxine), B9 (folic acid) และ H (biotin)
นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่สูง คือ โครเมียม สังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัส และ
เซเลเนียม อีกทั้ง บริเวอร์ยีสต์ ยังเป็นแหล่งที่สำคัญของโปรตีนอีกด้วย
โดยประมาณว่าจะมีโปรตีนถึง 16 กรัมต่อปริมาณผงยีสต์ 30 กรัม
บ่อยครั้งที่เกิดความสับสนว่า
บริเวอร์ยีสต์ เป็นยีสต์ประเภทเดียวกันกับยีสต์ที่ใช้ทำขนมปัง
ซึ่งความจริงแล้ว บริเวอร์ยีสต์
กับยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังมีความแตกต่างกันอย่างมาก
เพราะยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังไม่เพียงแต่ปราศจาก Vitamin B-complex เท่านั้น
ยังกลับจะมีส่วนในการทำลาย Vitamin B ในลำไส้และในส่วนอื่นๆ
ของร่างกายเสียหมด
บริเวอร์ยีส์กับประโยชน์ต่อร่างกาย
เนื่องจาก
บริเวอร์ยีสต์ ประกอบด้วย Vitamin B จำนวนมาก จึงมีส่วนช่วยเพิ่มบทบาทของ
วิตามิน ดังกล่าวภายในร่างกายคนเรา Vitamin B-complex
นั้นจะมีส่วนช่วยในระบบการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนภายในร่างกาย
นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนระบบการทำงานส่วนประสาทและช่วยรักษากล้ามเนื้อที่ใช้ในกระบวนการย่อยอีกด้วย
-
Vitamin B
แต่ละชนิดต่างก็มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนระบบเส้นประสาท
โดย Vitamin B จะส่วนบรรเทาอาการตึงเครียด อาการซึมเศร้า และความอ่อนเพลีย
นอกจากนี้ยังช่วยชลอความชราบางประการได้อีกด้วย
เมื่อใดที่ร่างกายตกอยู่ในสภาพความกดดัน ตึงเครียดหรือภาวะติดเชื้อ
ร่างกายจะต้องการ Vitamin B มากกว่าเดิมเป็นพิเศษ
โดยร่างกายของเราไม่สามารถกักเก็บ Vitamin B ส่วนเกินเอาไว้ได้
ดังนั้นจำเป็นที่เราต้องบริโภค Vitamin B เป็นประจำอยู่เสมอ
-
Biotin เป็น Vitamin B ชนิดหนึ่งที่มีอยู่มากใน บริเวอร์ยีสต์
มีความสามารถในการช่วยให้เล็บที่เปราะแข็งแรงขึ้น
และช่วยบำรุงสุขภาพผมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยโรค
เบาหวาน ได้อีกด้วย
ใน บริเวอร์ยีสต์
ยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญของ โครเมียม อีกด้วย ซึ่งสถาบัน U.S. FDA
แนะนำขนาดที่ควรรับประทานต่อวันในคนปกติเท่ากับ 120 มิลลิกรัม โดย โครเมียม
มีความสามารถในการลดระดับ คลอเลสเตอรอล ในเลือด
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกิจกรรมของอินซูลินภายในร่างกายซึ่งจะช่วยในบุคคลที่สูญเสียน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
โครเมียม เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดี แต่สามารถดูดซึมได้ดีจาก
บริเวอร์ยีสต์ นอกจากนี้ โครเมียม ยังมีสรรพคุณเพื่อการรักษาสิวได้ผลดี
นอกจากนี้ บริเวอร์ยีสต์ ยังเป็นแหล่งที่ดีของ RNA
ที่มีประสิทธิภาพในการชลอความชราได้อีกด้วย
บริเวอร์ยีสต์กับโรคเบาหวาน
มีรายงานว่า
บริเวอร์ยีสต์ สามารถป้องกันการเป็นโรค เบาหวาน
ของกลุ่มคนที่บุคคลภายในครอบครัวมีประวัติเป็นโรค เบาหวาน มาก่อนได้อีกด้วย
มีการศึกษาชิ้นหนึ่งของประเทศเดนมารก์พบว่าบุคคลที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจะมีอาการที่ดีขึ้นหลังจากได้รับประทาน
บริเวอร์ยีสต์ ขนาด 2 ช้อนโต๊ะเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน
บริเวอร์ยีสต์กับระดับคลอเลสเตอรอลสูง
มีการศึกษาของมหาวิทยาลัย
Syracuse ใน New York พบว่า จากการทดลองให้บุคคลได้รับประทาน
บริเวอร์ยีสต์ ขนาด 2 ช้อนโต๊ะเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน
ปรากฏว่าบริเวอร์ยีสต์มีผลช่วยลดระดับ คลอเลสเตอรอล ได้ถึง 10%
บริเวอร์ยีสต์กับระบบทางเดินอาหาร บริเวอร์ยีสต์ กับโรคท้องร่วง
โรคท้องร่วงจะมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ
และบ่อยครั้ง โดยสามารถเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ
การท้องร่วงแบบรุนแรงบ่อยครั้งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อและต้องการการบำบัดทางยาซึ่งเมื่อเกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำ
โซเดียม โปแตสเซียม และแคลลอรี่ ได้ ในแถบทวีปยุโรปได้ใช้ บริเวอร์ยีสต์
กันอย่างแพร่หลายเพื่อช่วยป้องกันการเกิดอาการท้องร่วงจากสิ่งมีชีวิตได้
โดยการศึกษาในสัตว์พบว่า บริเวอร์ยีสต์ ได้ขัดขวาง ต่อสู้กับ Clostridium
diffcile ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วง
จากการทดลองพบว่าการให้ บริเวอร์ยีสต์ ขนาด 500 มิลลิกรัม 4 ครั้งต่อวัน
จะช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งมีชีวิตในโรคท้องร่วงได้ นอกจากนี้
บริเวอร์ยีสต์
ยังช่วยนักท่องเที่ยวป้องกันโรคท้องร่วงระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย
บริเวอร์ยีสต์ กับโรคท้องผูก
จากการศึกษาพบว่า
บริเวอร์ยีสต์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการท้องผูกได้
เนื่องจากในผง บริเวอร์ยีสต์ 30 กรัม จะบรรจุไปด้วย ไฟเบอร์ ทางอาหารประมาณ
6 กรัม (24% ของขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน) ซึ่ง ไฟเบอร์
เป็นส่วนสำคัญของอาหารเนื่องจากมันจะช่วยเพิ่มกากใยเป็นจำนวนมากในอุจจาระ
ป้องกันการเกิดโรคท้องผูกได้ บริเวอร์ยีสต์
จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่มี สุขภาพ ที่ดี สมบูรณ์
บริเวอร์ยีสต์ กับโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่
จากห้องทดลองระบาดวิทยามีการวิจัยรายงานว่า
สารอาหาร เซเลเนียม จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้
สาร เซเลเนียม ที่มีมากใน บริเวอร์ยีสต์
ใช้เป็นสารอาหารเสริมเพื่อช่วยลดการเกิดและอันตรายจากโรค มะเร็งในลำไส้ใหญ่
ในร่างกายมนุษย์ได้ แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นเพราะ selenomethionine
หรือรูปแบบอื่นของ เซเลเนียม หรือส่วนประกอบอื่นของ เซเลเนียม ที่อยู่ใน
บริเวอร์ยีสต์ ที่ให้ผลดังกล่าว
บริเวอร์ยีสต์ กับการบาดเจ็บและสมานผิว
Vitamin
B-complex ที่ได้จาก บริเวอร์ยีสต์
เป็นธาตุที่สำคัญในการบำบัดอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้น จึงแนะนำให้ใช้
บริเวอร์ยีสต์ ในช่วงการพักฟื้นฟูบาดแผลหรือแผลไฟไหม้
โดยจากการศึกษาพบว่าใน บริเวอร์ยีสต์ มีสารชื่อ Glucan
มีฤทธิ์ช่วยให้บาดแผลหายไวโดยกระตุ้นและสนับสนุนการเติบโตของเซล์และเส้นโลหิตฝอย
อีกทั้งยังเสริมการทำงานของระบบต่อสู้การติดเชื้อของร่างกาย และ SRF (Skin
Respiratory Factor) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
บริเวณผิวหนังและเร่งรัดการสร้างคลอลาเจน เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
บริเวอร์ยีสต์ กับอาการตึงเครียด
Vitamin
B-complex ใน บริเวอร์ยีสต์
มีส่วนสำคัญต่อร่างกายอย่างมากในช่วงที่ต้องเผชิญกับภาวการณ์กดดันทางร่างกายหรืออารมณ์
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จึงแนะนำให้ใช้ บริเวอร์ยีสต์ ที่มี
Vitamin B-complex ในการอาการป่วยที่เป็นต่อเนื่อง เช่น
อาการอ่อนเพลียหรืออาการซึมเศร้าแบบเรื้อรัง
บริเวอร์ยีสต์ กับการนอนหลับ
จากการศึกษาพบว่า
Niacin และ Vitamin B6 ในบริเวอร์ยีสต์
สามารถช่วยบุคคลที่มีปัญหาในการนอนหลับยากได้
โดยสารดังกล่าวจะทำงานร่วมกันในการผลิตสาร seratonin
ในสมองซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้หลับพักผ่อนได้ง่าย
รูปแบบและขนาดที่ใช้รับประทาน
รูปแบบของ
บริเวอร์ยีสต์ ที่ใช้เป็นธาตุอาหารเสริมมีทั้งในรูปแบบ เม็ดแคปซูล
ก้อนเล็กๆ และผงสกัด โดยเราสามารถเติม บริเวอร์ยีสต์ ในอาหารที่รับประทาน
เช่น ซุป เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้
นอกจากนี้ยังใช้เติมในน้ำส้มเพื่อดื่มกันอย่างแพร่หลายอีกด้วย
บริเวอร์ยีสต์ ไม่จำเป็นต้องแช่ในที่เย็น และมีอายุการใช้งานที่นาน
ผง
บริเวอร์ยีสต์ คุณภาพสูงจะบรรจุด้วย โครเมียม 60 mcg ต่อ 1 ช้อนโต๊ะ (15
กรัม) โดยแพทย์จะแนะนำให้รับประทาน 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (ประมาณ 200 mcg)
ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยผง บริเวอร์ยีสต์ จะมีรสชาติที่รุนแรง
ถ้าผลิตภัณฑ์ใดไม่ปรากฏรสชาติดังกล่าวแสดงว่าไม่ใช่ บริเวอร์ยีสต์
ของจริงซึ่งจะไม่มีสาร โครเมียม บรรจุอยู่
คุณภาพของ บริเวอร์ยีสต์
นั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละขบวนการผลิต บางบรรจุภัณฑ์เป็น บริเวอร์ยีสต์
จากขบวนการคัดเอาแอลกอฮอล์ออก หรือเป็น By-product
ภายหลังจากขบวนการทำเบียร์ ซึ่งเป็นบริเวอร์ยีสต์ที่มีคุณภาพทางโภชนาการต่ำ
บริเวอร์ยีสต์
ที่มีคุณภาพสูงนั้นจะอยู่ในหัวน้ำตาลและต้องเป็นยีสต์ที่ตั้งใจปลูกไว้เพื่อการใช้เป็น
อาหารเสริม โดยเฉพาะ
ส่วนประกอบ Greater Pharma Brewers Yeast บริเวอร์ยีสต์
บริวเวอร์ยีสต์ 500 มก.
ขนาดรับประทาน บริเวอร์ยีสต์
ครั้งละ2เม็ด วันละ 3 ครั้ง
ข้อควรระวัง
-เนื่องจาก
บริเวอร์ยีสต์ ที่เป็นธาตุ อาหารเสริม อาจจะมีผลต่อกับตัวยาอื่น
ดังนั้นการใช้ บริเวอร์ยีสต์
ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด
-บุคคลที่เป็นโรค
กระดูกพรุน ควรหลีกเหลี่ยงการใช้ บริเวอร์ยีสต์
เนื่องจากบริเวอร์ยีสต์จะมีสาร ฟอสฟอรัส เป็นปริมาณสูงกว่า แคลเซียม
ซึ่งการที่มีสารฟอสฟอรัสเป็นปริมาณที่สูงจะทำให้เกิดการสูญเสีย
แคลเซียมจากร่างกายได้ ถ้าต้องการใช้ยีสต์เป็นธาตุ อาหารเสริม
ควรจะต้องมีการบริโภค แคลเซียม เพิ่มเติมเป็นพิเศษด้วย
-บุคคลที่ระบบภูมิคุ้มกันเสียหายอย่างรุนแรงควรหลีกเหลี่ยงใช้
บริเวอร์ยีสต์
หรือไม่ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-บุคคลที่มีร่างกายแพ้ต่อสัมผัสได้ง่ายเมื่อใช้
บริเวอร์ยีสต์ แล้วอาจเกิดอาการไมเกรน ปวดหัว บางครั้งอาจมีอาการผื่นคัน
อาการบวมน้ำ เป็นหัด ได้
-บุคคลที่เป็นโรคเก๊าท์ควรหลีกเหลี่ยงการใช้ บริเวอร์ยีสต์
-บางครั้งการใช้
บริเวอร์ยีสต์ ในครั้งแรกอาจก่อให้เกิดอาการมีแก๊สในลำไส้ ดังนั้นในการใช้
บริเวอร์ยีสต์ ควรเริ่มใช้แต่เพียงเล็กน้อยก่อน (น้อยกว่า 1
ช้อนโต๊ะต่อวัน) จากนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่แนะนำ
-ในการใช้ บริเวอร์ยีสต์ ถ้ามีอาการคลี่นเหียน อาเจียน ควรหยุดใช้ในทันทีและควรรีบปรึกษาแพทย์
-บริเวอร์ยีสต์ ไม่เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ สามารถใช้ได้ในปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ปกติราคา
ราคาพิเศษ 170 บาท